สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำธุรกิจห้องเช่า
2. สามารถปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งต่างๆได้ เครื่องใช้ต่างๆย่อมมีการชำรุดและเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ความรู้เรื่องการซ่อมแซมจึงเป็นสิ่งที่ควรมี ซึ่งสิ่งที่ควรทำได้ในเบื้องต้น คือ เปลี่ยนหลอดไฟ การเปลี่ยนมิเตอร์น้ำ เปลี่ยนลูกบิดประตู การทาสีห้อง ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเรียนรู้เพิ่มเติมในส่วนของการเดินระบบไฟ ทางเดินน้ำก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ หากซ่อมแซมด้วยตัวเองจะประหยัดงบประมาณในการจ้างช่างซ่อมบำรุงมาซ่อมแซม และปัจจุบันการหาช่างซ่อมแซมบ้านที่จะซ่อมปัญหาเล็กน้อยนั้นค่อนข้างยากและมีการเรียกราคาที่สูงด้วย หรืออาจจะจ้างช่างซ่อมประจำบ้านเป็นรายเดือนก็ได้ ซึ่งการจ้างช่างซ่อมรายเดือนจะเหมาะกับบ้านที่มีห้องพักจำนวนมาก
3. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร ผู้ประกอบการควรรู้ว่าคนในพื้นที่นั้นมีอายุเท่าไร อาชีพใด รายได้เท่าไร ค่านิยมเป็นอย่างไร เพื่อที่จะกำหนดราคา ตกแต่งภายใน สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้สัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษา ห้องเช่าควรมีเฟอร์นิเจอร์ มีอินเทอร์เน็ตเพื่ออำนวยความสะดวก หากเป็นหอพักอาจมีอุปกรณ์การเรียนขายเป็นส่วนเสริมก็ได้ อย่างไรก็ตามก่อนเข้าพักควรมีการถามถึงรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับ อาชีพ รายได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการไม่จ่ายค่าเช่าด้วย
4. ความปลอดภัยคือเรื่องสำคัญ ก่อนที่จะสร้างห้องเช่าควรพิจารณาถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะหากมีปัญหาเรื่องการโจรกรรมหรืออาชญากรรมเกิดขึ้น ลูกบ้านจะเกิดความหวาดกลัวจนต้องย้ายไปในที่สุด ดังนั้นสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยการจ้างรปภ. ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทำระบบคีย์การ์ด เป็นต้น
5. ความสะอาดทำให้น่าอยู่ ความสะอาดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ การทำความสะอาดอยู่เสมอจะช่วยให้บ้านเช่าหรือหอพักไม่ดูทรุดโทรมในระยะยาว หากปล่อยคราบสกปรกทิ้งไว้นานการทำความสะอาดก็จะยากขึ้น เมื่อผู้เช่ามีการย้ายออกควรรีบทำความสะอาดให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้เพราะหากมีคนมาดูห้องพักจะไม่เสียโอกาสในส่วนนี้ไป
6. ควรมีที่จอดรถ ปัจจุบันการออกรถใหม่นั้นง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก ผู้คนจึงมีสัดส่วนการใช้ยานพาหนะเพิ่มขึ้น ดังนั้นการเลือกทำเลควรคำนึงถึงที่จอดรถเพื่อความสะดวกแก่ผู้เช่าด้วย
7. สร้างข้อตกลงก่อนการเช่า หมายถึงกฏหรือข้อห้ามของห้องเช่า ก่อนการตกลงเซ็นสัญญาเช่าควรให้ผู้เช่าอ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนและอาจจะกำชับข้อห้าม เพื่อป้องกันปัญหาความไม่พอใจที่อาจตามในภายหลัง เช่น ห้ามเล่นการพนัน ห้ามเสียงดังรบกวนผู้อื่น ห้ามทำเลาะวิวาท ห้ามติดสติ๊กเกอร์ใดๆภายห้อง หากฝ่าฝืนอาจมีบทลงโทษ เจ้าของบ้านควรมีความเด็ดขาดเรื่องกฏระเบียบด้วย
8. ผู้ให้เช่าควรติดต่อได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาใดก็ตามผู้ให้เช่าควรติดต่อได้เสมอเพราะปัญหาต่างๆอาจะเกิดขึ้นเวลาไหนก็ได้ ดังนั้นการช่วยเหลือลูกบ้านอย่างเต็มใจจะมีส่วนช่วยให้ผู้เช่าอยู่ได้นานขึ้นหรืออาจจะจ้างคนมาดูแลบ้านแทนก็ได้
9. ศึกษาเรื่องภาษีให้ดีและเสียภาษีอย่างถูกต้อง การเสียภาษีคือหน้าที่ของทุกคนที่มีรายได้ หากไม่จ่ายภาษีในกำหนดเวลาอาจจะต้องเสียภาษีย้อนหลังได้ ซึ่งจะมีค่าปรับเพิ่มขึ้นมาจะไม่คุ้มกับรายได้ที่ได้รับ
หากมองดูแค่ผิวเผินธุรกิจห้องพักให้เช่าอาจจะดูเหมือนไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ในความจริงมักมีปัญหาเกิดในเวลาที่ไม่แน่นอนอยู่เสมอ เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆที่ต้องประสบปัญหาต่างๆเกิดขึ้นเช่นกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบธุรกิจสามารถจัดการปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจบ้านเช่า, ห้องเช่าหรือหอพัก ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจแก่ผู้ที่สนใจและหากใครมีห้องให้เช่าอยู่แล้วผมขอให้ประสบความสำเร็จกับธุรกิจครับ ขอบคุณครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น